วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558

A part of love (ส่วนหนึ่งของความรัก) ^^

วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ผมได้มาเดินเล่น เที่ยวงานต่างๆ เป็นวันที่สนุกมากอีกวันหนึ่งเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่จะพูดถึงในวันนี้คือ ส่วนหนึ่งของความรัก ^^ (พูดทีไรก็อดยิ้มไม่ได้)
มันเป็นความรู้สึกดี ที่แผ่มา จนคนข้างๆอย่างผมรู้สึกได้
เหตุการณ์นั้นก็คือ ผมได้มาอยู่ในงานคอนเสิร์ตหนึ่ง ซึ่งวงที่เล่นนั้น ออกแนวค่อนข้างจะอินดี้
แต่ก็มีคนที่ชื่นชอบมากๆเช่นกัน
คู่รักที่อยู่ข้างๆผมนั้น ผู้ชายเป็นที่ชื่นชอบวงนี้มากๆ (จากที่ผมแอบเห็นนะ ฮา)
ส่วนผู้หญิงนั้นน่าจะไม่ได้ฟังแนวนี้ซักเท่า แต่ที่ยกมาเล่าให้ฟัง ก็เพราะตัวผู้หญิงเองนั้น ก็ยืนโยกแล้วสนุกตาม 
การที่เห็นคนที่เรารักมีความสุข เราเองก็มีความสุขไปด้วย ไม่รู้ผมเป็นคนเดียวรึเปล่า ^^
แต่ผมรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนั้นก็รู้สึกแบบนั้น ^^  การที่เราได้เจอหรือพบกับคนที่อยู่กับเราแบบนี้ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
ใครก็ตามที่ได้เจอ ผมขออวยพรให้ความรักนั้นคงอยู่ไปนานๆๆๆๆๆนะครับ ^^
ส่วนตัวผมเองก็ยังคงตามหาความรักนั้นต่อไป :3  แต่ในระหว่างที่ตามหา ใช่จะเหงาตลอดไป อย่างเช่นวันนี้ ที่ผมได้เจอ
รู้สึกกับเหมือนได้พบเห็นความรู้สึกดีดี ก็อิ่มเอมกับความรู้สึกนั้น ก่อนที่ซักวันจะได้พบเจอกับตัวเอง ^w^ (หวังไว้อย่างนั้น ฮา)
[วันที่เขียน 18 ต.ค. 2014] 

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557

"หยวนๆ"

      "หยวนๆ" คำๆนี้เราอาจจะได้ยินกันบ่อยๆ และคุ้นเคยกันดี บางท่านอาจจะได้ยินบ่อยแต่อาจจะพูดบ่อย แต่บางคนก็ใช้เพื่อขอให้ผ่อนปรนก็มีไม่น้อย

      "หยวนๆ" มักถูกใช้ในหลายๆกรณีที่พบเห็นบ่อยๆ ก็คงเป็นการที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสผู้น้อยในการทำผิดครั้งแรกๆ หรืออาจจะไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งผมก็มองว่ามันก็ดีนะ เพราะมันทำให้ทั้งผู้ใหญ่ดูเป็นคนชอบให้อภัยและใจกว้าง อีกทั้งยังทำให้ผู้น้อยได้รับโอกาสแก้ไขปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ แต่ในบางครั้งการให้โอกาสบ่อยครั้งกลับกลายเป็นเรื่องที่แย่ เพราะผู้ที่ทำผิด ไม่ยอมปรับปรุงตัว หนำซ้ำกลับไม่เกรงกลัวการทำผิดครั้งต่อไปเพียงเพราะ "เขาใจดี เขาไม่ว่าอะไรหรอก เขาคงหยวนๆให้แหละ"

     แต่ถ้าเรามามองในอีกมุมนึง ทำไมในหลายๆประเทศเขาถึงไม่ให้อภัย ไม่หยวนๆบ้าง ผิดพลาดกันบ้างไม่ได้เลยงั้นหรือ?? ไม่ใช่หรอกครับ แต่ที่ลงโทษหรือตำหนิ เพราะไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยมากกว่า

     ในมุมมองของผมที่มองเกี่ยวกับคำว่า "หยวนๆ" ผมมองว่ามันดูเป็นคำที่ดีนะ เพียงแต่เราใช้กันให้มันแย่ไปเอง หากผู้ที่ใช้เป็นผู้ที่ให้โอกาส เช่น มีคนทำไม่ดีกับเราโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เราอาจจะ"หยวนๆ"ไปว่า เอาน่าครั้งแรก"หยวนๆ"ละกัน แต่หากผู้ที่ใช้ ใช้เพื่ออยากที่จะให้ยกโทษให้ โดยที่ตนเองไม่ได้สำนึกหรือคิดจะปรับปรุงตัว ในครั้งแรกอาจผ่อนผันกันได้ แต่การใช้ในครั้งต่อๆไปย่อมดูไม่ดี โดยที่อย่างหลังมักพบเห็นได้บ่อยๆ = ="

     ในต่างประเทศการมาสายถือเป็นมารยาทที่ไม่ดีจนถึงกับมองเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบเลย แต่ในประเทศไทย คนส่วนมากกลับมองว่าเป็นเรื่องปกติ จากเหตุที่ว่าปัญหาจราจร แต่ทำไมเราไม่คิดล่ะ ว่า คนอื่นเขาทำได้ ทำไมเขาถึงตรงเวลาได้

     ผมอยากให้คนไทยตรงต่อเวลามากกว่านี้ ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเสียแต่ในผู้ใหญ่ ในเด็กเล็กเองก็มี เช่น การส่งการบ้าน การมาโรงเรียน ควรมีความรับผิดชอบกันมากกว่านี้ อยากให้ยอมรับกฎเกณฑ์ต่างๆ หากเรามาสายจริงๆ ควรกล่าวขอโทษที่ทำให้เสียเวลา ผู้ที่เรานัดเจอ ไม่ใช่ขอโอกาสโดยการ "หยวนๆ"

==============================================

     จากประสบการณ์ตรงที่ได้เจอมา เช้าวันนั้นผมได้มีนัดอบรม เพื่อที่จะเข้าทำงานในที่แห่งนั้น ด้วยการที่บ้านไกล แล้วเวลานัดอบรมก็ค่อนข้างเช้า นั่งรถ 4 ต่อเพื่อที่จะไป = =" เวลานัดอบรมที่ได้ตกลงไว้คือ 09.00 น. เวลาที่ตั้งใจว่าจะไปถึงคือ 08.30 น. ร้อนรน รีบเร่งเพื่อที่จะให้ถึงที่หมายให้ทันเวลา จนกระทั่ง 08.40 น. ถึงที่หมาย :3 ค่อยโล่งใจ มานั่งหอบในห้องอบรม
     ก่อนที่จะนัด มีเวลาบอกชัดเจนว่า ห้ามมาช้ากว่า 09.00 น. มิฉะนั้นจะปิดห้องอบรมห้ามเข้าทันที จนถึงเวลา 09.10 น. ยังมีคนเข้ามาเรื่อยๆ สบายๆ (แล้วที่xูรีบๆนี่เพื่ออะไรวะ = =") 09.45 น. เริ่มการอบรม คือรีบเพื่อมารออีก 1 ชม. รู้สึกเฟลครับ = ="

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

แนะนำตนเอง ^^

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่านะครับ ^^

ชื่อ : หนุ่ม ครับ นามปากกายังไม่ได้คิด แต่ก็มีชื่อที่ใช้บ่อยๆ เช่น PJ3002 , Morpheus32 อะไรประมาณนี้


อายุ : 2X  แต่จิตใจยัง 15 ใสๆ >///<

เพศ : ชาย 100% (แต่มักจะถูกจับจ้องจากเพศเดียวกันอยู่บ่อยครั้ง)

งานอดิเรก : อ่านหนังสือ ดูหนัง ดูการ์ตูนบ้าง(แต่ก่อนค่อนข้างติด)

นักเขียน และ นักวาดที่ชื่อชอบ : นิ้วกลม และ macharge >///<

นิสัย : ร่าเริง คุยง่าย อะไรก็ได้ เรื่อยๆ ชิลๆ โกรธไรไม่ค่อยโกรธจริงจัง ให้อภัยง่าย ^^

ความ(ใฝ่)ฝัน : มีความรู้สึกว่าเราไม่ค่อยเป็นผู้นำซักเท่าไร (แต่ถ้าจำเป็นก็ทำได้) สิ่งที่คิดว่าเป็นตัวเอง และอยากเป็นคือ การที่เราได้ยืนข้างๆคนๆนึง ที่เรายอมรับ นับถือ และเชื่อมั่นในตัวคนคนนั้น (ไม่รู้เพราะเกิดปีจอรึเปล่า) แม้คนคนนั้นจะอายุน้อยกว่าก็ตาม อยากเป็นกำลังให้คนคนนั้น แม้จะยากลำบากแค่ไหนก็ตาม (อ่านการ์ตูนบู๊นักเรียนชายมากไปรึเปล่าก็ไม่รู้ ฮา)

จุดมุ่งหมายที่ตั้งบล็อกนี้ : นั่งเขียนบทความไปเรื่อยออกแนวสิ่งต่างๆที่ได้เจอในชีวิต ที่ได้เข้ามาในชีวิต เพราะอ่านหนังสือมา มีพี่ๆนักเขียนหลายๆท่านแนะนำว่า ให้พกปากกาและสมุดติดตัวไว้ตลอด คิดอะไรได้ นึกอะไรได้ก็จด แล้วจึงเอามาเขียนในบล็อกนี้ โดยส่วนตัวไม่ได้ตั้งความหวังว่าจะเป็นนักเขียนหรอกครับ แต่อยากมีเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันซะมากกว่า อาจจะออกแนวซุบซิบนินทาบ้าง(รึเปล่า) อันนี้ไม่แน่ใจ ^w^

หลักๆก็ประมาณนี้แหละครับ ยังไงก็มือใหม่หัดเขียน ผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยและขอคำแนะนำด้วยครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ^^